แนะนำ 4 เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณเขียนคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ก่อนอื่นแอดมินต้องขอบอกก่อนเลยว่า หัวใจสำคัญของการทำคอนเทนต์คือ ความคิดไอเดียที่สร้างสรรค์เพื่อเป้าหมายทางการตลาดและทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สร้าง Brand Awareness และช่วยให้เพิ่มยอดขายได้ การทำการตลาดสายคอนเทนต์ผู้อ่านสามารถเข้าถึงแบรนด์ได้นอกเหนือจากช่องทางการตลาดแบบออฟไลน์ วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 เครื่องมือที่จะช่วยให้การทำคอนเทนต์นั้นง่ายขึ้นกว่ามานั้งนึกเองคนเดียว

เครื่องมือที่ 1 Google Trend

เครื่องมือ Google Trends นั้นเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถทราบถึงความสนใจของผู้คนได้ ซึ่งเครื่องมือตัวนี้จะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เราเห็นในรูปแบบของ คำและประโยคที่คนส่วนมากมักจะค้นหากันผู้คนกำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรอยู่บ้าง และ มักเลือกใช้ Keyword ใดในการค้นหาข้อมูลเหล่านั้นเท่านี้ก็ทำให้เรารู้ได้ว่าสิ่งที่เราต้องการจะเขียนเกี่ยวกับสินค้าของเรานั้นควรเน้นไปที่หัวข้อไหนนั้นเอง

เครื่องมือที่ 2 BuzzSumo

เครื่องมือ BuzzSumo เป็นเว็บไซต์ที่บอกเลยว่าให้บริการข้อมูลในการทำการตลาดบนโลกออนไลน์ โดยการค้นหาบทความบนโลกอินเตอร์เน็ตจากหลายหลายแพลตฟอร์มใหญ่เช่น Facebook , Youtube , Pinterest เป็นต้นซึ่งเครื่องมือนี้ สามารถช่วยเราในการค้นหาประเด็นที่กำลังเป็นที่นิยม เพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดคอนเทนต์ของเราได้ ซึ่ง BuzzSumo เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแบบเสียค่าใช้จ่ายแต่ก็ยังมีให้ทดลองใช้ฟรี 30 วันลองไปเล่นเครื่องมือนี้ให้เข้าใจการทำงานก็ก็ได้นะ

เครื่องมือที่ 3 Google Keyword Planner

เครื่องมือ Google Keyword Planner เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่จะทำให้เราสามารถค้นหาจำนวน Keyword Search Volumn หรือ จำนวนที่มีการค้นหาคำเหล่านั้นเพื่อช่วยให้เราว่างแผนการเขียนคอนเทนต์ที่จะเน้นไปที่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวของกับสินค้าของเรา และยังเป็นเครื่องมือที่มีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นมาเพื่อการวางแผนการทำโฆษณาบน Google Ads โดยตรง

เครื่องมือที่ 4 Google Analytics

เครื่องมือ Google Analytics เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่นำมาใช้ในการวัดประสิทธิภาพของเว็บไซต์และเนื้อหาคอนเทนต์ที่เราได้เขียนลงไปในเว็บไซต์แล้ว โดยการนำข้อมูลเชิงลึกทางสถิติของผู้ที่เข้ามาดูเว็บไซต์ในการนำมาวิเคราะห์ข้อมูล โดยข้อมูลที่เราจะได้รับจาก Google Analytics มีหลักๆ ดังต่อไปนี้
4.1 ข้อมูลเชิงประชากรศาสตร์ ​​(Demographic) เช่น อายุ เพศ อาชีพ ภาษา สถานที่ที่อยู่อาศัย
4.2 ข้อมูลเชิงพฤติกรรม ( Behavior) เช่น อุปกรณ์ที่ใช้เมื่อเข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ และสามารถวัดผล Traffic บนหน้าเว็บไซต์หรือหน้าคอนเทนต์ต่างๆ

โดยเราสามารถนำข้อมูลที่ได้จาก Google Analytics ไปต่อยอดในการผลิตคอนเทนต์ได้ด้วยซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ได้ดีมาก

ทั้งหมดที่เรานำเสนอไปนั้นเป็นเครื่องมือที่ใช้งานฟรีเป็นส่วนใหญ่ แต่การที่จะเขียนคอนเทนต์ให้ดีนั้นก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุนเองด้วย ซึ่งเครื่องมือก็เป็นแค่ส่วนนึงในการช่วยให้เราเขียนคอนเทนต์เพื่อขายสินค้าออนไลน์ได้ง่ายขึ้นและรวดเร็ว ทั้งนี้เรา The icon group ก็มีคอร์สเรียนฟรีสอนขายของออนไลน์ให้กับทุกคนด้วยนะ ตามที่ลิ้งนี้เลยจร้า

สนใจสอบถาม ลงทะเบียนเรียนฟรี ตอนนี้ กับ THE ICON